วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

เรียนภาษาอังกฤษยังไงให้พูดได้?

# เรียนภาษาอังกฤษยังไงให้พูดได้?
คำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตของคนที่เรียนภาษาอังกฤษทุกคนอย่างแน่นอน แม้แต่แอดมินเองก็ถามตัวเองอยู่บ่อยๆว่า เรียนภาษาอังกฤษยังไงให้พูดได้ซะที!!! เลยนึกไปถึงคำพูดของอาจารย์ท่านหนึ่งขึ้นมา อาจารย์ท่านบอกว่า
  •   การเรียนภาษาอังกฤษก็คือ ‘การลอกเลียนแบบ’ คำพูด ประโยค สำนวน คำแสลง ของเจ้าของภาษามาพูด
ใช่แล้วค่ะ!! ที่เราดูหนังฝรั่ง ก็เพื่อจดจำ และลอกเลียนแบบประโยคและสำนวนในหนัง มาใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ที่เราได้พบเจอ เมื่อใช้บ่อยเข้ามันก็จะเกิดเป็นความเคยชินและจดจำได้เองไปโดยอัตโนมัติ
แต่คำนึงที่อาจารย์ท่านนั้นย้ำก็คือ “copy with understanding” เราลอกเลียนแบบได้ แต่เราต้องเข้าใจในประโยคหรือสำนวนนั้นๆก่อน แล้วค่อยเอามาใช้ และบางทีก็เอาไปปรับแต่งประโยคใหม่ตามแต่สถานการณ์ได้ อย่าสักแต่ว่าจำ
แล้วไม่รู้ว่าจะต้องงัดเอามาพูดตอนไหนเวลาต้องสื่อสารจริงๆ หรือใช้แบบผิดๆ อันนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์เช่นกันจ้า ^^
…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา

The Fox and the Stork An Aesop’s Fable

The Fox and the Stork
An Aesop’s Fable
At one time the Fox and the Stork were on visiting terms and seemed very good friends. So the Fox invited the Stork to dinner, and for a joke put nothing before her but some soup in a very shallow dish. This the Fox could easily lap up, but the Stork
could only wet the end of her long bill in it, and left the meal as hungry as when she began. “I am sorry,” said the Fox, “the soup is not to your liking.”
“Pray do not apologise,” said the Stork. “I hope you will return this visit, and come and dine with me soon.” So a day was appointed when the Fox should visit the Stork; but when they were seated at table all that was for their dinner was contained in a very long-necked jar with a narrow mouth, in which the Fox could not insert his snout, so all he could manage to do was to lick the outside of the jar.
“I will not apologise for the dinner,” said the Stork:
Moral of Aesops Fable: “One bad turn deserves another.”
YouTube responded to TubePress with an HTTP 410 - No longer available
YouTube responded to TubePress with an HTTP 410 - No longer available

การบอกความสามารถในภาษาอังกฤษ (การใช้ can, could, to be able to)

การบอกความสามารถในภาษาอังกฤษ (การใช้ can, could, to be able to)
การบอกความสามารถในภาษาอังกฤษที่เห็นจะใช้กันบ่อยๆก็คือ can, could และ to be able to ค่ะ สามตัวนี้สามารถใช้แทนกันได้ในบางกรณี และในบางสถานการณ์ก็ใช้แทนกันไม่ได้ ถ้าจะพูดถึงความสามารถทั่วๆไปในปัจจุบัน ก็ใช้ can โดยที่ can + V1 ถ้าเป็นปฏิเสธก็ใช้ cannot หรือ can’t แต่ถ้าเป็นความสามารถทั่วๆไปในอดีต ก็ใช้ could + V1 ถ้าเป็นปฏิเสธก็ใช้ could not หรือ couldn’t เช่น
  • He can drive a car.
  • She can’t live alone.
  • I could sing French songs when I was in high school.
  • My children couldn’t swim until they were five.
To be able to สามารถนำมาใช้แทน can หรือ could ได้ในการพูดถึงความสามารถทั่วๆไปเช่นนี้ได้ เช่น
  • He is able to juggle the ball very well.
  • They are able to row the boat cross the river.
แต่ในประโยคที่เป็น future tense, perfect tense หรือ infinitive เราไม่สามารถใช้ can ได้ จึงต้องใช้ to be able to แทน เพราะเราไม่สามารถพูดว่า I will can call you tonight. ได้ (เพราะกริยาช่วยสองตัวมันจะอยู่ด้วยกันไม่ได้) จึงต้องพูดว่า I will be able to call you tonight. หรือตัวอย่างอื่นๆเช่น
  • I haven’t been able to get much work done today.
  • I want to be able to speak four languages.
ในประโยค passive voice เราสามารถใช้ได้ทั้ง can, could และ be able to เช่น
  • The car can’t be fixed within two days.
  • The room is able to be painted today.

การแสดงการเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นภาษาอังกฤษ

การแสดงการเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นภาษาอังกฤษ
เวลาพูดกับชาวต่างชาติก็อาจจะต้องมีการแสดงความคิดเห็นของเราสอดแทรกเข้าไประหว่างที่สนทนา คือเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด มาดูสำนวนที่ใช้พูดแสดงการเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกันค่ะ
การแสดงการเห็นด้วย
เวลาที่ใครพูดอะไรกับเราแล้วเราเห็นด้วย ก็จะใช้สำนวนดังต่อไปนี้ค่ะ
ถ้าแบบเป็นทางการก็จะใช้ว่า
  • I agree.     ฉันเห็นด้วย
  • I concur.   ฉันเห็นด้วย
  • That’s just what I was thinking.  นั่นเป็นสิ่งที่ผมกำลังคิดเลย
  • That’s exactly my opinion.  นั่นเป็นความเห็นของผมเลย
หรือถ้าเห็นด้วยแบบจริงจังหรือเห็นด้วยสุดๆ ก็จะเพิ่มคำขยายเข้ามาเช่น
  • I totally agree.   เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
  • I definitely agree.    เห็นด้วยอย่างยิ่ง
  • I absolutely agree.  เห็นด้วยอย่างยิ่ง
  • I couldn’t agree more.   เห็นด้วยอย่างที่สุด
แต่ถ้าเป็นการเห็นด้วยแบบกลางๆ ก็มักจะพูดว่า
  • That’s quite right.   ก็น่าจะใช่
  • I quite agree with you.   ฉันค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณ

การใช้คำว่า even อย่างมืออาชีพ!!

เจาะลึกการใช้คำว่า even อย่างมืออาชีพ!!
ในภาษาพูดของภาษาอังกฤษ บางคนอาจจะเคยได้ยินเขาพูดคำว่า even ในประโยคกันบ่อยๆ even อย่างนั้น even อย่างนี้ even อย่างโน้น ถ้าเอามาพูดบ้างน่าจะเข้าท่าแห๊ะ น่าจะดูเหมือนเจ้าของภาษาเขาพูดกัน แต่ก่อนจะนำไปใช้ก็ต้องรู้จักความหมายและการนำไปใช้กันก่อนนะคะว่า even หมายความว่าอะไรได้บ้าง  มาดูที่ ความหมายง่ายๆ ของ even กันก่อนค่ะ
evenแปลว่า จำนวนคู่ก็ได้ เช่น
  • 24 is an even number.
    24 เป็นเลขจำนวนคู่
  • 51 isn’t an even number.
    เลข 51 ไม่ใช่เลขคู่
evenแปลว่า “เสมอ หรือ เท่ากัน” ก็ได้ เช่น
  • My mark and Janie’s mark are even.
    คะแนนของฉันกับคะแนนของเจนี่เท่ากัน
  • I was so upset after I had my hair cut. My new haircut isn’t even.
    ฉันหัวเสียมากๆเลยหลังจากไปตัดผมมา ผมทรงใหม่นี่ไม่เท่ากันเลย
คราวนี้มาถึงความหมายของ even ที่แปลย๊ากยากกันบ้าง เพราะบางทีไปเจอในประโยคก็ไม่รู้จะแปลมันว่าอะไร จริงๆ even เนี่ยไม่ได้มีไว้เท่ๆในประโยคอย่างเดียวนะคะ เพราะมันยังเป็นการพูดให้คนฟังเห็นภาพหรือเป็นการเน้นย้ำ พูดง่ายๆคือเพิ่มอรรถรสทางภาษานั่นเอง
evenถ้าแปลเป็นภาษาพูดของไทยก็จะแปลว่า “แม้แต่, แม้กระทั่ง, ขนาด” เช่น